เมื่อวานที่ผ่านมาเราทราบกันดีแล้วว่าทางสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ทำการเซ็นสัญญาให้โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการกุมบังเหียนสโมสรดังเดิม แม้ว่าผลงานของเขาไม่อาจเทียบกับเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันได้แต่ก็ถือว่าเข้าตาทุกคนไม่น้อยเลยทีเดียว และที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือค่าเหนื่อยที่เขาได้รับจากเดิมทีเพียงแค่ปีละ 7 ล้านปอนด์ก็เพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านปอนด์ต่อปี
หรือตีเป็นเงินไทยที่ประมาณ 440 ล้านบาท การขึ้นค่าเหนื่อยในครั้งนี้ทำให้หลายคนเริ่มสงสัยว่าแล้วกุนซือในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงสุดนั้นเป็นใครและได้เท่าไหร่บ้าง วันนี้เราจึงจะมาแนะนำกันว่าใครที่ได้รับค่าเหนื่อยต่อปีมากที่สุดในฐานะของผู้จัดการทีม คนแรกที่ได้รับค่าเหนื่อยต่อปีมากที่สุดในฐานะของผู้จัดการทีมก็คือเป๊บ กวาดิโอล่า กุนซือทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้
พ่อบุญทุ่มประจำสโมสรดังในพรีเมียร์ลีกที่ทุ่มจ่ายเงินเป็นจำนวนสูงถึง 20 ล้านปอนด์ต่อปี ตีเป็นเงินไทยประมาณ 880 ล้านบาท หากใครที่คิดว่าค่าเหนื่อยของผู้จัดการสัญชาตินอร์เวย์อย่างโซลชาร์มากแล้ว ก็ขอให้เปลี่ยนความคิดได้เลยเพราะมีคนที่ได้รับมากกว่าเขาถึง 1 เท่าตัวเลยทีเดียว ส่วนอันดับที่ 2 คือกุนซือจากทีมลิเวอร์พูลอย่างเจอเก้น คลอปที่ได้รับค่าเหนื่อยไปปีละ 15 ล้านปอนด์หรือตีเป็นเงิน 660 ล้านบาท ส่วนตำแหน่งที่ 3 นั้นมี 2 คนที่ได้รับค่าเหนื่อยเท่ากันเป็นจำนวน 10 ล้านปอนด์ต่อปีนั่นก็คือโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและเบรนแดน ร็อดเจอร์สจากเลสเตอร์ ซิตี้
มาต่อกันที่อันดับที่ 4 ซึ่งมีค่าเหนื่อยถูกลงมากว่าอันดับ 3 เพียงแค่เล็กน้อยนั่นก็คือมาร์เซโล่ บิเอลซ่า ผู้จัดการทีมลีดส์ที่ได้ค่าเหนื่อยไปที่ 8 ล้านปอนด์ต่อปี ตามมาติดๆ ด้วยอันดับที่ 5 ที่รั้งตำแหน่งสองคนด้วยกันประกอบไปด้วยผู้จัดการจากเอฟเวอร์ตันอย่างราฟาเอล เบนิเตซที่ได้รับค่าเหนื่อยไปปีละ 7 ล้านปอนด์ และโธมัส ทูเคิ่ลจากสโมสรเชลซีที่ได้รับค่าเหนื่อยไปปีละ 7 ล้านปอนด์เช่นเดียวกัน
หากในปีนี้โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ไม่ได้รับค่าตัวเพิ่มเขาจะยังคงรั้งท้ายอันดับที่ 5 ร่วมกับอีก 2 สโมสรนั่นก็คือเอฟเวอร์ตันและเชลซีด้วยค่าเหนื่อยเดิมที่ปีละ 7 ล้านปอนด์ การเพิ่มค่าตัวให้กับกุนซือชาวนอร์เวย์ในครั้งนี้คงจะทำให้กุนซือทีมอื่นรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ไปตามๆ กัน ไม่แน่ว่าในอีกไม่นานนี้เราอาจจะได้ยินข่าวเพิ่มค่าเหนื่อยให้กับผู้จัดการทีมสโมสรในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษอีกก็ได้
ติดตามข่าวเพิ่มเติม : ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ