รวมรายชื่อนักเตะลิเวอร์พูลที่ได้รับบาดเจ็บและวันคาดการณ์ว่าจะได้กลับลงสนาม

ลิเวอร์พูลต้องเจอกับวิกฤติครั้งใหญ่เพราะในการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รวมไปถึงการแข่งขันฟุตบอลโลกซึ่งเป็นรายการทีมชาตินั้นต่างก็ทำให้นักเตะในสโมสรได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน อย่างที่เราทราบกันดีว่าลิเวอร์พูลเป็นสโมสรที่ในซัมเมอร์ที่ผ่านมาพวกเขาไม่ได้ซื้อนักเตะใหม่เข้าร่วมทีมเลย ดังนั้นการที่นักเตะได้รับบาดเจ็บมันจึงกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่อาจจะส่งผลต่อชัยชนะของพวกเขาในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้นัดพบกับอาร์เซนอลได้ วันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่ามีนักเตะคนไหนบ้างที่ได้รับบาดเจ็บและวันที่คาดการณ์ว่าพวกเขาจะกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง

1. ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ นักเตะดาวรุ่งวัย 18 ปีที่ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าหลุดและแตกในการแข่งขันกับลีด ยูไนเต็ดตั้งแต่เดือนกันยายน ปัจจุบันเขาผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อยแล้วและกำลังฟื้นฟูร่างกายอย่างรวดเร็วทำให้ช่วงท้ายฤดูกาลอาจมีโอกาสได้กลับมาลงสนาม

2. แอนดี้ โรเบิร์ตสัน นักเตะที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณเอ็นหลังหัวเข่าจากเกมทีมชาติ เป็นการบาดเจ็บที่ไม่รุนแรงจึงได้เตรียมตรวจร่างกายอย่างละเอียดเมื่อกลับมาถึงเพื่อให้รู้ว่าต้องพักนานหรือไม่

3. จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมที่ได้รับบาดเจ็บจนถูกทีมชาติส่งตัวกลับมา คาดการณ์ว่าอาการไม่ได้หนักบ้าและน่าจะสามารถลงสนามนัดพบกับอาร์เซนอลได้

4. โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ นักเตะที่ได้รับบาดเจ็บจากการแข่งขันแชมป์เปียน ลีกบริเวณเอ็นหลังหัวเข่า คาดการณ์ว่าเขาจะต้องพักยาวไม่ต่ำกว่า 1 เดือน

5. นาบี เกอิต้า นักเตะที่ได้รับบาดเจ็บในเกมแดงเดือดแถมยังมาถูกซ้ำในการแข่งขันกับไบรท์ตันจนเอ็นหลังหัวเข่าได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง ทำให้เขายังต้องทักไปอีกสักระยะแล้วยังไม่สามารถลงสนามได้ในเร็วๆ นี้

6. ซาดิโอ มาเน่ นักเตะที่ได้รับบาดเจ็บจากการแข่งขันทีมชาติแต่โชคดีที่ไม่ร้ายแรงทำให้อาจมีโอกาสได้เข้าร่วมการแข่งขันกับอาร์เซนอลอยู่

7. เจมส์ มิลเนอร์ นักเตะที่ได้รับบาดเจ็บในการแข่งขันแดงเดือดบริเวณเอ็นหลังหัวเข่า คาดการณ์ว่าเขาจะกลับมาได้หลังจากการแข่งขันทีมชาติ แต่ตอนนี้เขายังไม่ได้ลงซ้อมด้วยซ้ำ

8. โจ โกเมซ นักเตะที่บาดเจ็บน่องและต้องพักอีกประมาณ 2-3 สัปดาห์

9. เคอร์ติส โจนส์ นักเตะที่ได้รับบาดเจ็บที่ตาในระหว่างการซ้อม คาดการณ์ว่าจะกลับมาลงสนามได้หลังช่วงเบรคโปรแกรมทีมชาติ

ติดตามข่าวเพิ่มเติม : ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ

ติดตาม Facebook fans page ::Footballdaily365