ในตลาดนักเตะซัมเมอร์ที่ผ่านมานี้เราจะเห็นว่ามีนักเตะชื่อดังหลายคนที่มีการย้ายสโมสร แต่อย่างไรก็ตามนักเตะหลายคนเหล่านี้บางส่วนก็มีที่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ย้ายเข้าไปอยู่ได้ไม่นานอย่างเช่นโรนัลโด้ที่สามารถทำประตูให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้หลายต่อหลายครั้งหลังจากพี่ย้ายเข้ามาอยู่ในทีมได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันเองก็มีนักเตะหลายคนไม่น้อยเลยทีเดียวที่สมัยก่อนอยู่กับทีมเก่าก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม แต่พอเข้าสู่ทีมใหม่พวกเขากลับยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างที่ควร
บางคนถึงกับถูกตั้งคำถามเลยทีเดียวว่าคุ้มค่าแก่การซื้อตัวมาลงเล่นกับทีมจริงหรือไม่ หนึ่งในนักเตะที่ถูกตั้งคำถามมากที่สุดเห็นทีจะหนีไม่พ้นลิโอเนล เมสซี่ นักเตะดาวดังจากบาร์เซโลน่าที่สามารถสร้างความสำเร็จให้กับสโมสรได้จนกลายเป็นเสมือนกับสัญลักษณ์ของสโมสรบาร์เซโลน่าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่สโมสรประสบปัญหาทางการเงินและไม่สามารถเคลียร์สัญญากันได้อย่างลงตัว สุดท้ายบาร์เซโลน่าก็ต้องเสียเมสซี่ไปโดยที่ไม่ได้เงินแม้แต่แดงเดียว
และสโมสรที่รีบมาช้อนตัวเมสซี่อย่างรวดเร็วก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นสโมสรเศรษฐีอย่างปารีส แซงต์-แชร์กแมงนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามหลังจากเข้าไปอยู่ในสโมสรได้สักพักเมสซี่ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเท่าที่ควรสะสมความคาดหวังของแฟนบอล เขาได้รับโอกาสในการลงเล่นเป็นตัวจริงหลายต่อหลายนัดในการแข่งขันลีก เอิง ฝรั่งเศส แต่ก็ยังไม่เคยทำประตูได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
อย่างไรก็ตามในที่สุดการแข่งขันยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอนัด ที่ 2 ซึ่งเป็นการพบกันระหว่างปารีส แซงต์-แชร์กแมงและสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปแอสเชได้เปิดบ้านปาร์ก เดส์ แพร็งส์ต้อนรับคู่แข่งจากอังกฤษอย่างสมภาคภูมิด้วยการคว้าชัยชนะไปได้ด้วยคะแนน 2 ประตูต่อ 0 ในวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา และหนึ่งในประตูที่ช่วยให้ปารีส แซงต์-แชร์กแมงสามารถคว้าชัยชนะเหนือสโมสรใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีกอย่างแมนซิตี้ได้สำเร็จก็มาจากฝีมือของลิโอเนล เมสซี่นักเตะใหม่ที่สุดท้ายก็สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมและทำประตูเป็นครั้งแรกได้สำเร็จนั่นเอง
สาเหตุที่ก่อนหน้านี้เมสซี่ไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเนื่องจากเขาต้องประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่มีอาการเป็นระยะ ส่งผลต่อการทำประตูที่ย่ำแย่ลง แต่อย่างไรก็ตามในที่สุด 3 นัดที่ผ่านมาเขาก็สามารถปลดล็อคประตูแรกได้สำเร็จในที่สุดช่วยให้ปารีสสามารถทำคะแนนขึ้นนำได้ 1 ประตูต่อ 0
ติดตามข่าวเพิ่มเติม : ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ
ติดตาม Facebook fans page ::Footballdaily365